หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ปฏิรูปการศึกษาไทย ได้แต่ปริมาณ

เมื่อวานนั่งดูข่าวโทรทัศน์ ซึ่งมีเรื่องวุ่นวายมากมายในประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องการเมืองในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดินที่มีเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับากรเมืองมากมาย เช่น
  • 14 ตุลาคม 16 เป็นวันที่นักศึกษาออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยจากรัฐบาลเผด็จการ จอมพลถนอม กิติขจร วันที่ 6 ตุลาคม 2519 วันที่รัฐบาลและทหาร รุมฆ่านักศึกษา ประชาชนมากมายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในสมัยรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมท 7 รวมทั้งเหตุการณ์อื่นๆ
  • เหตุการณ์ในปัจุบัน ที่การเมืองยังวุ่นวายจากการต่อต้านของกลุ่มต่างๆ ที่ใช้สีเสื้อเป็นสัญญลักษณ์ เช่น กลุ่มเสื้อเหลือง กลุ่มเสื้อสีแดง กลุ่มเสื้อสีน้ำเงิน กลุ่มเสื้อหลากสี (กลุ่มเดียวกับสีเหลือง) ทำให้ช่วงนี้ มีการจัดการเสวนา ในที่ต่างๆ โดยองค์กรต่างๆ มามายหลายที่ เกี่ยวกับบทเรียนที่ได้จากทางการเมืองของประเทศไทยที่ผ่านมา ว่า ทำไมจึงไม่เป็นประชาธิปไตยสักที มีแต่ชื่อว่าประชาธิปไตย แต่ยังเป็นเด็จการโดยทหารมาตลอด ถ้ารัฐบาลไหน ทหารเอาด้วยก็อยู่ได้ แต่ถ้าทหารไม่เอา ก็ถูกปฏิวัติ รัฐประหารมาตลอด จนกลายเป็นเรื่องชินชาของประชาชนไปแล้ว
  • สะดุดใจกับข่าวการเสวนากลุ่มหนึ่ง ที่จัดโดยคนต่างชาติ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน คือฝรั่งต่างชาติ ได้ออกมาเสวนาถึงเหตุการณ์ที่เกิดอยู่ทุกวันนี้ ว่าเพราะอะไร ซึ่งมีการกล่าวถึงเรื่องต่างๆอย่างกว้างขวาง แล้วก็มาลงที่การศึกษา เพราะการที่ประชาธิปไตยของไทยไม่ได้ไหนสักที ก็เพราะความล้มเหลวของระบบการศึกษาของประเทศไทย โดยมีใจความตอนหนึ่งที่พูดกันว่า ถึงแม้ประเทศไทยจะมีการปฏิรูปการศึกษา แต่ก็ได้แต่ปริมาณ ไม่มีคุณภาพ เช่น มีการขยายมหาวิทยาลัยราชภัฏเต็มประเทศ แต่ไม่มีใครมาควบคุมดูแล ด้านคุณภาพ ทำให้มหาวิทยาลัยราชภัฏถูกมองว่ามีมาตรฐานต่ำกว่ามหาวิทยลัยหลักๆ ที่มีมาก่อนหน้านี้ การศึกษาไทย ทุกระดับ จะต้องเปลี่ยนมาจัดการศึกษษให้คนได้คิด ไม่ใช่ท่องจำตำรา
  • ในข่าวบอกสั้นๆ จับใจความได้แค่นี้ จึงไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด ว่า ในวงเสวนา มีการพูดรายละเอียดอย่างไรบ้าง จึงได้หยิบประเด็นนี้มาคิดต่อ และคิดว่า ที่ต่างชาติเขาวิจารณ์การเมืองไทย แล้วโยงมาที่สาเหตุสำคัญว่าอยู่ที่การศึกษา มันเป็นจริงหรือไม่ ว่า คุณภาพการศึกษาของเราแย่ จนมีผลทำให้การเมืองไทย ไม่ถึงประชาธิปไตยสักที ยังอยู่ภายใต้เผด็จการกลุ่มอำนาจทหารจนทุกวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น