หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2552

ศูนย์ความรู้ประชาชนแห่งชาติ

บางครั้งเราอยากจะรู้เรื่อวลงอะไรสักเรื่องหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าจะไปหาได้ที่ไหน เลยลองทบทวนว่า ตั้งแต่อดีตที่จำความจำ จำเรื่องที่ได้รับฟังมาได้ จนถึงปัจจุบัน ว่าเขาไปหาความรู้ที่ไหน สถานที่แรก ที่คนเราไปหาความรู้ คือ ถามจาก พ่อแม่ หรือคนใกล้ชิด เป็นแหล่งว่ารู้ ที่ได้เรียนรู้ตั้งแต่เกิด เมื่อโตขึ้นมา ก็นึกถึงครู อาจารย์ ก็คือ บุคคลผู้มีความรู้ ในสมัยก่อน จะต้องเดินทางดั้นด้น ไปพบผู้รู้ แล้วฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความรู้ สถานศึกษา คือโรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียน ที่จำลองมาจากสำนักตักศิลา ในสมัยโบราณ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก จาการกระทำตัวเป็นลูกศิษย์ อาจารย์บางคนเปลี่ยนไปเป็นลูกจ้างแล้ว เมื่อโลกทางวัตถุเจริญมากๆ ก็มีการสร้างแหล่งความรู้อย่างหลากหมาย ไม่ว่า จะเป็นห้องสมุด หรืออื่นๆ ที่คนเดินเข้าไปก็ได้รับความรู้ ปัจจุบัน เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ก้าวหน้าไปมาก ทุกคนจึงมักกล่าวถึงอินเตอร์เน็ต คือ ความรู้อยู่บนอินเตอร์เน็ต แล้วก็ดูเหมือนว่า มีอยู่มากมายมหาศาลเสียด้วย แต่ก็เสียดายที่เนื่องจากมันมีมากมาย ทำให้ไม่รู้ว่า มันมีความรู้อะไร อยู่ที่ไหนบ้าง โครงการศูนย์ความรู้ประชาชนแห่งชาติ ดูเหมือนว่า เป็นโครงการดีๆ อีกโครงการหนึ่ง ที่ คณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้เป็นผู้ริเริ่มขึ้น โดยเน้นที่การสร้างศูนย์ความรู้ผ่านทางช่องทางอินเตอร์เน็ต โดยเริ่มต้นนำร่องที่ website http://www.thailearning.info/ (ติดตามตอนนต่อไปในวันพรุ่งนี้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น