วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552
เทคโนโลยี มีประโยชน์ต่อการศึกษา แต่ต้องรู้เท่าทัน
ดูเหมือนว่า ทุกวันนี้ เราจะถูกบังคับทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ให้ต้องเอาเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเทคโนโลยีการสื่อสาร และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะเรื่อง อินเตอร์เน็ต เมื่อเช้านี้ ดูข่าวจากทาง TV ถึงการหลอกลวงจากผู้ไม่หวังดีจนเหยื่อต้องสูญเสียเงินนับเป็นหมื่น เป็นแสน โดยวิธีการโทรมาบอกว่า เหยื่อได้รับเงินภาษีคืน แต่ไม่สามารถส่งเงินให้ได้ตามที่อยู่ที่แจ้ง และกำลังจะหมดเวลา จึงให้ไปรับโอนเงินผ่านทาง ATM และใช้กระบวนการต่างๆ จนเหยื่อเชื่อ จากประเด็นนี้ ถามว่า เหยื่อเป็นคนไม่มีการศึกษา หรือเชื่อคนง่ายหรือไม่ ก็ตอบว่าไม่ แถมแต่ละคนเป็นคนฉลาดเสียด้วยซ้ำครับ แต่ผู้ร้ายก็อาศัยความฉลาดนี่แหละ ที่ว่าความฉลาดก็เพราะเหยื่อได้มีการตรวจสอบข้อมูลต่างมาก แะผู้ร้าย ก็ให้ข้อมูลต่างๆ ได้ถูกต้องหมด จนเหยื่อหลงเชือ และทำตามขั้นตอนที่บอกโดยหลงกล โอนเงินในบัญชีของตนใไผู้ร้าย ถามว่าผู้ร้ายรู้ได้อย่างไร ถ้าดูให้ดี ผู้ร้ายเป็นชาวไต้หวัน และมีคนไทยร่วมด้วย และมีข้อมูลของเหยื่ออย่างดี ก็เดาได้อย่างดีว่า ข้อมูลมีการรั่วไหวได้ ซึ่งเราก็รู้ว่า ข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไม่ปลอดภัยนัก เจอมือดี ก็สามารถ HACK ได้ และข้อน่าสังเกตว่า ที่ก่อความเสียหายในปัจจุบัน ผู้ร้ายมักจะเป็นคนจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ และไต้หวัน นี่แหละอันตรายจากเทคโนโลยี ที่เป็นข่าวฮือฮาในปัจจุบัน อย่างกรณีธนาคาร บางครั้งเราต้องการสะดวกสบาย ด้วยการใช้ ATM แต่ก็ไม่ค่อยปลอดภัย จนบางครั้งไม่อย่างไปกดเงินที่ตู้ ATM หรือแม้แต่ฝากเงิน ก็ไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่า เงินเราปลอดภัยหรือไม่ เพราะข้อมูลส่วนตัวของเราทุกววันนี้ รั่วไหลไปถึงไหนบ้างแล้วก็ไม่รู้ เราเป็นครู จะทำอย่างไร จึงจะบริโภคเทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัย และบอกคนอื่นให้ปลอดภัยด้วย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น