หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ธุรกิจที่เกี่ยวกับการศึกษา

วันนี้เป็นวันหยุด แต่มีงานค้างต้องมาทำงานต่อ เมื่อเลี้ยวรถจะเข้าที่ทำงาน ปรากฏว่า ต้องแปลกใจ เพราะรถจจอดเต็มสนามหน้าที่ทำงานไปหมด สอบถามจึงได้ความว่า เป็นวันซ้อมรับพระราชทานปริญญาบัตร เข้าไปวนรถหาที่จอดรถ ได้เห็นผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ ส่วนมากก็จะเหมารถตู้มาบ้าง รถกระบะบ้าง แต่ดูเหมือนส่าส่วนมากเป็นรถกระบะ เท่าที่เห็นก็จะมีแต่ผู้ปกครอง ที่เป็นผู้สูงอายุเสียเป็นส่วนมาก ส่วนตัวนักศึกษาไม่เห็น เพราะอยู่ในห้องประชุมหมดแล้ว ทำให้ตัวเรย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว ได้ไปร่วมดีใจกับลูกที่เข้ารับพระราชทานปริญญาเช่นกัน เป็นความภูมิใจของตัวบัณฑิตตเอง และพ่อแม่ญาติพี่น้อง สิ่งที่เห็นเมื่อเดินไปสำรวจบริเวณรอบๆ ประการหนึ่งคือ ช่อดอกไม้ ถึงแม้จะเป็นวันซ้อม ก็มีขายกันอย่างมากมาย ราคาก็ไม่ถูกเลย เป็นธุรกิจที่ทำรายได้ไม่น้อยเลย (ดูจากการประมูลพื้นที่เพื่อตั้งขายดอกไม้ก็รู้ว่า ทำกำไรอย่างมาก เพราะค่าประมูลพื้นที่ขายเป็นหลักแสน) ทำให้นึกต่อไปอีกว่า การรับปริญญาแต่ละครั้งต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายแห่งความภาคภูมิใจ ประการแรกคือ ชุดที่เข้ารับพระราชทานปริญญา ไม่ว่าจะเป็นชุดนักศึกษา ชุดขาว และครุยที่สวมใส่ ไม่ว่าจะเช่า หรือตัดเอง ก็หลายสตางค์ เรียกว่า ร้านตัดชุด มีรายได้งามๆ ประการต่อมาคือ ร้านแต่งหน้า โดยเฉพาะร้านที่อยู่บริเวณใกล้ๆมหาวิทยาลัย มีรายได้กันเป็นกอบเป็นกำ บางร้านลูกค้ามารอคิวตั้งแต่เช้า ธุรกิจการถ่ายภาพ ก็ได้รับผลไม่น้อยเช่นกัน ทั้งช่างภาพอาชีพ และสมัครเล่น งานนี้ต้องจ่ายกันเป็นหลักพัน ถ้าใช้ช่างกล้องมืออาชีพ ไม่รวมกับค่าอัดภาพเพื่อเป็นไว้เป็นที่ระลึก ธุรกิจอาหาร ก็คึกคักไม่น้อย เพราะมีผู้คนมาร่วมแสดงความยินดีไม่น้อย บัณฑิต 1 คน มีคนมาร่วมแสงดความยินดี 2-3 คน หรือบางคนยกกันมาทั้งครอบครัว เป็นสิบ ถึงแม้บางครอบครัวจะเตรียมอาหารการกินมาเอง ก็ก็ต้องซื้อหากินกัน รวมทั้งการเข้าร้านอาหารเพื่อฉลองความสำเร็จหลังจากได้รับพระราชทานปริญญาบัตรแล้ว ลองคิดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเอาตัวเองเป็นหลักตัวเลขขึ้นหลักหมื่น (เพราะต้องเข้าไปรับที่ กทม. เสียค่าใช้จ่าย ในการเดินทาง ค่าที่พักโรงแรม) ถ้าคนละประมาณ หนึ่งหมื่นบาท การรับปริญญาวันหนึ่งประมาณ 4000 คน ก็คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 40 ล้านบาท ต่อวัน นี้คือค่าใช้จ่ายในวันแห่งความสำเร็จการศึกษา วันแห่งความภาคภูมิใจ ธ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น